from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานประชาสัมพันธ์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์
โรง พยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
เปิดบริการตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการสงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009 แบบครบวงจร One Stop Service
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงาน เฉพาะกิจ
เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ขณะนี้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ เอช1 เอ็น1
ยังมีการแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
แม้ว่าโรคดังกล่าวจะมีอาการไม่รุนแรงมากนักในคนปกติ
และสามารถรักษาให้หายได้ หากเข้ารับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก
แต่โรคดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดจากผู้ที่กำลังป่วยไปสู่คนใกล้ชิดได้อย่างรวด
เร็ว เพราะเป็นโรคสายพันธุ์ใหม่ที่คนทั่วไปยังไม่มีภูมิต้านทานโรค
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์โรคดังกล่าว
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
จึงได้เปิดบริการการตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการสงสัยที่มีอาการ มีไข้ ไอ
จาม ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
หรือผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยหรือเดินทางเข้าไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่
มีการระบาดของโรคภายใน 7 วัน
และดูแลเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่สุขภาพอ่อนแอ อาทิ ผู้ป่วยเรื้อรัง
ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุ
และเด็กเล็ก นายแพทย์มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
กล่าวว่า จากที่ตั้งหน่วยคัดกรองเฉพาะกิจมาตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2552
ณ บริเวณอาคารผู้ป่วยนอกชั้น 1 ซึ่งในแต่ละวันมีผู้มารับการตรวจ
ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น. ประมาณ 240 รายต่อวัน
ทำให้มีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อผู้มารับบริการ และในวันพุธที่ 15 กรกฎาคมนี้
เป็นต้นไป ได้ย้ายไปเปิดให้บริการตรวจคัดกรองครบวงจร แบบ One Stop
Service สำหรับ ผู้ที่มีอาการสงสัย คือ มีไข้ ไอ จาม ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อยตามร่างกาย ที่บริเวณพลับพลาเรือนไทย หน้าอาคาร 50
พรรษามหาวชิราลงกรณ เมื่อผู้มีอาการน่าสงสัยเข้ามารับบริการ
ก็จะได้รับการบริการ ณ จุดนี้จุดเดียวแบบครบวงจรที่สะดวก รวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพ ทั้งการนั่งรอตรวจ การทำบัตร ซักประวัติ วัดสัญญานชีพ
การพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลสรรพสิทธิ
ประสงค์ และการรับยาตลอดจนคำแนะนำ การดูแลตนเอง
และการปฏิบัติตัวในสังคมจากเภสัชกรและทีมสุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ ,
ทีมเวชกรรมสังคม ในส่วนของการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลนั้น
ได้จัดเตรียมระบบการรองรับไว้แล้ว
หากมีผู้ป่วยหนักจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ทั้งระบบการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
การจัดห้องแยกโรคเป็นการเฉพาะที่ได้มาตรฐานสามารถควบคุมโรคได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมไว้แล้วถึง 10
ห้องที่มีวงจรปิดและโทรศัพท์สำหรับให้ผู้ป่วยติดต่อกับญาติ
อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ยาและเวชภัณฑ์อื่น ๆ
ตลอดจนการให้บริการรักษาพยาบาลโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
เพื่อควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาดออกไป
จึงนับได้ว่าขณะนี้โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
มีความพร้อมในทุกด้านในการรองรับสถานการณ์การเกิดโรคไข้หวัดใหญ่
สายพันธุ์ใหม่ 2009
แต่อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่มีอาการไข้หวัดธรรมดาไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ควรดูแล
สุขภาพด้วยตนเองที่บ้าน โดยการพักผ่อนที่เพียงพอ
รับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำมากๆ
ก็จะสามารถหายได้เองภายใน 5 - 7 วัน แต่หากภายใน 2 - 3 วัน
อาการยังไม่ดีขึ้นมีไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบไปพบแพทย์ ณ
โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โทร.045-244973 ต่อ 1390 วิริยาภรณ์ ข่าว/พิมพ์ 14
ก.ค.52
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
รับการตรวจประเมินคุณภาพและมาตรฐานสถานพยาบาลประจำปี 2552
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานประชาสัมพันธ์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์
โรง พยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
รับการตรวจประเมินคุณภาพและมาตรฐานสถานพยาบาลประจำปี 2552 วันที่ 14
กรกฎาคม 2552 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมการบริหารชั้น 5 อาคาร 50
พรรษามหาวชิราลงกรณ นพ.มนัส กนกศิลป์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
ต้อนรับคณะผู้ตรวจประเมินคุณภาพและมาตรฐานสถานพยาบาล
จากกองประสานการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานคร
ซึ่งได้เข้าทำการตรวจประเมินคุณภาพมาตรฐานสถานพยาบาล
เนื่องจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
ได้เข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลให้บริการทางการแพทย์แก่ลูกจ้างผู้ประกันตน
ซึ่งจะมีการตรวจประเมินทุกปี โดยสำนักงานประกันสังคม
ได้จัดให้คณะที่ปรึกษาทางการแพทย์
และที่ปรึกษาทางการพยาบาลของสำนักงานประกันสังคมดำเนินการเยี่ยมสำรวจและ
ตรวจประเมินคุณภาพและมาตรฐานของสถานพยาบาล
โดยได้จัดทำแนวทางการเยี่ยมสำรวจ
เพื่อเป็นข้อมูลให้สถานพยาบาลทราบและได้กำหนดแบบข้อมูลสถานพยาบาลและแบบ
ประเมินเครื่องชี้วัดคุณภาพสถานพยาบาล เพื่อให้สถานพยาบาลกรอกข้อมูลต่าง
ๆ ในการดำเนินงานของสถานพยาบาล
และยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจของสถานพยาบาลเกี่ยวกับสิทธิรักษา
พยาบาลของผู้ประกันตน การบริหารจัดการข้อมูล
และการจัดวิธีการตรวจสอบสิทธิให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของสำนักงานประกัน
สังคม โดยการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้คณะผู้ตรวจประเมินได้ทำการเดินเยี่ยมสำรวจและ
ประเมินคุณภาพการให้บริการทางการพยาบาล ด้านมาตรฐานทั่วไป
มาตรฐานบริการผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน มาตรฐานบริการผู้ป่วยนอก
มาตรฐานบริการผู้ป่วยใน มาตรฐานบริการผู้ป่วยหนัก มาตรฐานบริการศัลยกรรม
มาตรฐานบริการวิสัญญี ส่วนการเยี่ยมสำรวจทางการแพทย์ได้แก่
มาตรฐานเวชระเบียน มาตรฐานพยาธิวิทยา มาตรฐานบริการเภสัชกรรม
และมาตรฐานบริการรังสีวิทยา วิริยาภรณ์ ข่าว/พิมพ์ 14 ก.ค.52